วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทศกัณฐ์...วัันนี้

ทศกัณฐ์...วันนี้




    เมื่อตอนยังเด็ก  เรียนเรื่องรามเกียรติ์  นึกจินตนาการภาพทศกัณฐ์  มีสิบหน้า  ยี่สิบมือ  ก็คงเหมือน ๆ กับที่บรรดาจิตรกรทั้งหลายพยายามถ่ายทอดไว้ตามที่ต่าง ๆ มีหน้า มีหัวซ้อนๆ กัน  มีมือเยอะแยะ

    โตขึ้นมา  เรียนลึกลงไป  เริ่มวิเคราะห์นัยที่ซ่อนอยู่ในสิบหน้า ยี่สิบมือของทศกัณฑ์  ทศกัณฐ์ก็คือคนหลายหน้า  หาความจริงใจไม่ได้  มือยี่สิบมือก็คือบรรดาพลพรรคบริวารมากมายที่คอยสนองอยู่รอบข้าง
ทั้งญาติ ทั้งลิ่วล้อ  จึงได้มีอิทธิพลล้นฟ้า


   ในบรรดาญาติมิตรของทศกัณฐ์  ก็มีต่าง ๆ เมื่่อทศกัณฐ์ทำผิด  น้องแบบพิเภกแสดงความไม่เห็นด้วยออกมาตรง ๆ ก็โดนขับไล่จนต้องหนีไปอยู่กับพระราม  กลายเป็นคนทรยศไปโดยไม่ได้ตั้งใจ  กุมภกรรณ  ว่าจริง ๆ ก็ไม่เห็นด้วย  แต่ความที่เห็นเลือดข้นกว่าน้ำ  ก็จำยอมช่วยเหลือเป็นมือไม้ให้ทศกัณฐ์  ส่วนอินทรชิต  ร่วมด้วยช่วยกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย  นอกจากเป็นมือเป็นไม้  ยังช่วยเป็นหัว  คิดหาวิธีการ  เป็นต้นว่าแปลงเป็นพระอินทร์ไปทำสงครามกับพระลักษมณ์  แล้วก็ถือโอกาสที่พระลักษมณ์ลังเล  แผลงศรโดนพระลักษมณ์จนอาการร่อแร่  งานนี้  ได้หน้าไปเต็ม ๆ

    มือไม้ของทศกัณฐ์  มีทั้งชายทั้งหญิง  อย่างสุวรรณมัจฉาที่มาขัดขวางหนุมานจองถนน  หรือเบญกายที่แปลงเป็นสีดาลอยน้ำมา  ให้พระรามเข้าใจว่านางสีดาตาย  จะได้ยกทัพกลับไป


    เมื่อตอนท้าวมาลีวราช  ซึ่งเป็นผู้ที่ทั้งบรรดายักษ์และเทวดาเคารพนับถือ  ทำหน้าที่เป็นคนกลางมาพิจารณาคดี  ทศกัณฐ์ก็ดิสต์เครดิตตั้งแต่กล่าวหาว่าท้าวมาลีวราชนั่งรถของพระอินทร์มา  แสดงว่าโน้มเอียงไปทางเทวดาตั้งแต่แรก  ครั้งท้าวมาลีวราชไต่สวนทวนความจนปรากฏหลักฐานพยานชัดเจนว่าทศกัณฐ์เป็นฝ่ายผิด ทศกัณฐ์ก็แสดงความอหังการ์  ไม่ยอมรับอำนาจศาลเอาดื้อ ๆ ใครก็ไม่กล้าทำอะไร  ท้าวมาลีวราชก็ได้แต่แช่งชักหักกระดูก  ก็เท่านั้น...

    อ่านข่าวทุกวันนี้แล้ว  ทำไมคิดถึงเรื่่องรามเกียรติ์ขึ้นมาก็ไม่รู้ได้  ทั้งเรื่องที่ไม่ยอมรับอำนาจศาล  ทั้งลิ่วล้อที่เป็นปาก เป็นมือไม้  ยุ่มย่ามยุ่บยั่บ  เหมือนรามเกียรติ์ภาคสอง

    สงครามที่เกิดจากกิเลสของทศกัณฐ์  ยืดเยื้อยาวนาน  ญาติวงศ์พงศาเดือดร้อนล้มตายไปจนเกือบหมดสิ้น  วันนี้  ดูเหมือนจะมาเริ่มกันใหม่  ในประเทศไทยของเรานี่เอง




วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ระวัง...ไอ้ตัวจิ๋ว

ระวัง...ไอ้ตัวจิ๋ว !!!!!




     บ่อยครั้ง  ที่ไปซื้อสินค้า  แล้วตัดสินใจไม่ถูกว่าจะซื้ออย่างไหนดี  แต่ละอย่างมันมีข้อดีข้อเสียต่างกันมากน้อยแค่ไหน  แล้วท้ายที่สุด  ก็อาจเป็นว่า  ไม่ซื้อ  หรือถ้าจำเป็นต้องใช้  ก็ต้องซื้อโดยไม่รู้ว่ามันจะดีหรือไม่  ตรงตามความต้องการมากน้อยแค่ไหน

     สาเหตุก็เป็นเพราะไอ้เจ้าอักษรกำกับสินค้า  ที่นับวันก็อาศัยอัจฉริยภาพของคอมพิวเตอร์  ย่อเสียจนตัวเล็กจิ๋ว  จิ๋วเกินกว่าสายตาคนปกติจะอ่านได้  ต้องอาศัยแว่นขยาย  หรือบางทีขยายแล้วก็ยังยากที่จะอ่านออกอยู่ดี





     และด้วยเหตุว่า  มีคนน้อยมากที่จะพกแว่นขยายไปยืนอ่านฉลาก  หรือใบกำกับสินค้า  ดังนั้น  ส่วนใหญ่ก็มักจะพลิก ๆ ดู  อ่านเฉพาะตัวที่พอจะอ่านออก  ซึ่งก็มักจะเป็นส่วนโฆษณาจูงใจ

     ส่วนตรงที่สำคัญ  ไม่ว่าจะเป็นข้อห้าม  ควรระวัง  กลับใช้อักษรจิ๋วสุด ๆ  ก็เพราะไม่ต้องการให้อ่านออก  แต่มีไว้ป้องกันตัวเอง  เผื่อใครซื้อไปแล้ว  เกิดอันตรายอะไรขึ้นมา  จะได้อ้างว่า  บอกแล้ว...อยากไม่อ่านเอง

    อักษรจิ๋วพวกนี้เหมือนกัน  ที่เรามักจะเจอในเอกสารสำคัญ  ใบสัญญา ฯลฯ  ที่มีข้อผูกพันต่าง ๆ แล้วไอ้ข้อที่จะทำให้เราต้องพลาดท่าเสียที  เสียเปรียบ  มันก็มักจะพิมพ์เป็นไอ้เจ้าตัวจิ๋ว  แิอบไว้ตรงไหนสักแห่ง  แถมบางทียังใช้หมึกสีอ่อน  หรือพิมพ์ทับไปบนภาพพื้นอะไรที่ทำให้เราหมดความมานะพยายามที่จะอ่าน  แล้วก็ลงสรุปง่าย ๆ ว่า  "อย่าไปอ่านมันเลย"




    ก็คงต้องร้องเรียนคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคให้หามาตรการป้องกันไอ้ตัวจิ๋วนี่สักหน่อยแล้ว

    แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น  ขอแนะนำให้พกแว่นขยายติดตัวไว้สักหน่อยก็ดี  เวลาจะซื้อสินค้า  หรือทำสัญญิงสัญญาอะไรกับใคร  กรุณาส่อง  และอ่าน...ก่อนตัดสินใจ

    อย่าคิดง่าย ๆ ว่า "อย่าไปอ่านมันเลย"

    เพราะนอกจากอาจต้องเสียเงิน  เสียรู้  เสียใจ  แล้วยังอาจถุกซ้ำเติมเสียอีกว่า "แล้วทำไมไม่อ่าน"




วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ภาษาไทยไพเราะ



ภาษาไทยไพเราะเสนาะล้ำ
ทุกถ้อยคำแฝงฝากความหลากหลาย
ทั้งกาพย์กลอนโคลงฉันท์พรรณราย
สื่อความหมายชี้ชัดวัฒนธรรม
ควรพวกเราชาวไทยใฝ่รักษา
รู้คุณค่าอ่านเขียนเร่งเรียนร่ำ
สุภาษิตสำนวนไทย สนใจจำ
อักขระควบกล้ำสิ่งสำคัญ
ภาษาไทยไพเราะเสนาะนัก
เอกลักษณ์ชาติไทยได้สร้างสรรค์
ภาษาแม่สืบมาแต่คราบรรพ์
ควรช่วยกันรักษา...อย่าทำลาย