อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองค์อมรินทร์
ทรงคชเอราวัณ
ช้างนิิมิตฤทธิแรงแข็งขัน เผือกผ่องผิวพรรณ
สีสังข์สะอาดโอฬาร์
..........
คำประพันธ์ตอนนี้ อยู่ในบทพากย์เอราวัณ เป็นตอนที่อินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ซึ่งกวีจินตนาการไว้พิสดารพันลึก ชนิดที่อ่านแล้วต้องสงสัยว่า...คิดไปได้ยังไง
อินทรชิตเป็นลูกชายสุดเลิฟของทศกัณฐ์ เดิมชื่อรณพักตร์ มีฝีมือร้ายกาจขนาดเอาชนะพระอินทร์ได้ เลยได้ชื่อใหม่ว่า อินทรชิต แปลว่าชนะพระอินทร์
อินทรชิตเป็นลูกชายสุดเลิฟของทศกัณฐ์ เดิมชื่อรณพักตร์ มีฝีมือร้ายกาจขนาดเอาชนะพระอินทร์ได้ เลยได้ชื่อใหม่ว่า อินทรชิต แปลว่าชนะพระอินทร์
นอกจากฝีมือร้ายกาจแล้ว อินทรชิตยังมีศรวิเศษ คือศรนาคบาศ และศรพรหมมาศ ซึ่งถ้าโดนเข้าจัง ๆ ไม่ว่าใครหน้าไหน รับรอง จอดไม่ต้องแจว
อินทรชิตรบกับกองทัพพระรามมาหลายยกก็ยังเอาชนะไม่ได้ เพราะฝีมือลายมือก็พอฟัดพอเหวี่ยงกัน อินทรชิตเลยใช้อุบาย แปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ รวมทั้งกองทัพยักษ์ก็เนรมิตให้กลายเป็นกองทัพพระอินทร์ แห่แหนกันมาอีึกทึกครึกโครม
ซึ่งก็ได้ผล เมื่อพระัลักษมณ์ยกทัพมา ตั้งใจจะรบกับยักษ์ดันมาเจอกองทัพเทวดาเข้าก็เอ๋อเหรอไปชั่วขณะ ไม่รู้เหมือนกันว่างงเพราะตื่นตะลึงกับความพิสดารพันลึกของกองทัพนิรมิต หรืองงว่าอยู่ดีๆ พระอินทร์ซึ่งเป็นเทพ ดันมาอยู่ฝ่ายมารได้ยังไง
ก็เลยเป็นชั่วขณะที่อินทรชิตได้ที แผลงศรพรหมมาศ ถูกพระลักษมณ์เข้าเต็ม ๆ
หลังจากนั้นก็ชุลมุนชุลเก หนุมานโดดเข้าไปหักคอช้างเอราวัณปลอม ก็โดนอินทรชิตเอาคันศรฟาดสลบเหมือด กองทัพฝ่ายพระลักษมณ์ก็แตกกระเจิง
ทางฝ่ายพระรามพอรู้ข่าวก็รีบมาที่สนามรบ เห็นทั้งพระลักษมณ์ หนุมาน รวมทั้งขุนทหารพลทหารล้มตายระเนระนาด เล่นเอาช็อคหมดสติไปอีกคน
ทศกัณฐ์ฉวยโอกาสตอนนี้ บอกนางสีดาว่าพระรามตายแล้ว แถมพามาให้ดูให้เห็นกับตา
ดีที่ว่านางสีดา แกมีวิจารณญาณเป็นเลิศ ไม่ยอมเชื่อง่าย ๆ เลยอธิษฐานว่า ถ้าพระรามตายจริงก็แล้วไปเถอะ แต่ถ้ายังไม่ตายขอให้รถทรงลอยขึ้น แล้วก็เกิดปาฏิหารย์ รถลอยขึ้นจริง ๆ
นางสีดาก็เลยไม่หลงกลทศกัณฐ์
นี่แหละ เขาถึงว่า สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น
ในการศึกสงคราม การสร้างกลลวง หาวิธีเอาชนะทุกรูปแบบ เป็นเรื่องธรรมดา ไม่เชื่อไปถามขงเบ้ง หรือ ซุนวูดูก็ได้
อย่าว่าแต่ในสงครามเลย ที่ไหน เมื่อไหร่ ไม่ว่ายุคสมัยไหน เรื่องของเล่ห์กลมายา การหลอกลวงเยอะแยะ ไม่เชื่อไปถามซาตานอีกคน
ที่สำคัญก็คือ กาลเวลา การศึกษา ฯลฯ ไม่ได้ทำให้คนฉลาดขึ้น ตรงข้าม กลับยิ่งหลงมัวเมากับรูปนิรมิตมายามากขึ้นทุกวัน เรียกว่า ไม่ได้เศษเสี้ยวนางสีดา
เราจึงเห็นโฆษณาเกินจริงชนิดเหลือเชื่อ แต่ก็ยังมีคนเชื่อ
เห็นดาราสวยหล่อมากมาย ที่หลายส่วนเกิดจากฝีมือนิรมิตของบรรดาคุณหมอ และข่างเสริมสวย แต่ผู้คนก็แห่ห้อมล้อมหน้าหลัง ชื่นชมปลื้มเปรมกับรูปมายา
และเห็นการหลอกลวงชนิดที่ไม่อายปากอายใจ เรียกว่า แข่งกันลวง แข่งกันหลอก ไปทุกระดับ จนถึงระดับชาติ
พอถูกจับได้คาหนังคาเขา ก็อ้างว่าเป็นโกหกขาว...
ไม่รู้ว่าช้าเกินไปหรือเปล่า ที่หลักสูตรการเรียนการสอนของเรา เพิ่งนำเรื่องการรับสารอย่างมีวิจารณญาณมาให้เรียนกัน หลังจากปล่อยให้คนรับสารแบบไร้วิจารณญาณกันมาเนิ่นนาน... นานจนน่ากลัวว่าจะสายเกินแก้
ก็เหมือนกองทัพพระลักษมณ์หลงภาพนิรมิตนั่นแหละ หลงจนมองไม่เห็นศรพรหมมาศในมือมาร...
อินทรชิตรบกับกองทัพพระรามมาหลายยกก็ยังเอาชนะไม่ได้ เพราะฝีมือลายมือก็พอฟัดพอเหวี่ยงกัน อินทรชิตเลยใช้อุบาย แปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ รวมทั้งกองทัพยักษ์ก็เนรมิตให้กลายเป็นกองทัพพระอินทร์ แห่แหนกันมาอีึกทึกครึกโครม
ซึ่งก็ได้ผล เมื่อพระัลักษมณ์ยกทัพมา ตั้งใจจะรบกับยักษ์ดันมาเจอกองทัพเทวดาเข้าก็เอ๋อเหรอไปชั่วขณะ ไม่รู้เหมือนกันว่างงเพราะตื่นตะลึงกับความพิสดารพันลึกของกองทัพนิรมิต หรืองงว่าอยู่ดีๆ พระอินทร์ซึ่งเป็นเทพ ดันมาอยู่ฝ่ายมารได้ยังไง
ก็เลยเป็นชั่วขณะที่อินทรชิตได้ที แผลงศรพรหมมาศ ถูกพระลักษมณ์เข้าเต็ม ๆ
หลังจากนั้นก็ชุลมุนชุลเก หนุมานโดดเข้าไปหักคอช้างเอราวัณปลอม ก็โดนอินทรชิตเอาคันศรฟาดสลบเหมือด กองทัพฝ่ายพระลักษมณ์ก็แตกกระเจิง
ทางฝ่ายพระรามพอรู้ข่าวก็รีบมาที่สนามรบ เห็นทั้งพระลักษมณ์ หนุมาน รวมทั้งขุนทหารพลทหารล้มตายระเนระนาด เล่นเอาช็อคหมดสติไปอีกคน
ทศกัณฐ์ฉวยโอกาสตอนนี้ บอกนางสีดาว่าพระรามตายแล้ว แถมพามาให้ดูให้เห็นกับตา
ดีที่ว่านางสีดา แกมีวิจารณญาณเป็นเลิศ ไม่ยอมเชื่อง่าย ๆ เลยอธิษฐานว่า ถ้าพระรามตายจริงก็แล้วไปเถอะ แต่ถ้ายังไม่ตายขอให้รถทรงลอยขึ้น แล้วก็เกิดปาฏิหารย์ รถลอยขึ้นจริง ๆ
นางสีดาก็เลยไม่หลงกลทศกัณฐ์
นี่แหละ เขาถึงว่า สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น
ในการศึกสงคราม การสร้างกลลวง หาวิธีเอาชนะทุกรูปแบบ เป็นเรื่องธรรมดา ไม่เชื่อไปถามขงเบ้ง หรือ ซุนวูดูก็ได้
อย่าว่าแต่ในสงครามเลย ที่ไหน เมื่อไหร่ ไม่ว่ายุคสมัยไหน เรื่องของเล่ห์กลมายา การหลอกลวงเยอะแยะ ไม่เชื่อไปถามซาตานอีกคน
ที่สำคัญก็คือ กาลเวลา การศึกษา ฯลฯ ไม่ได้ทำให้คนฉลาดขึ้น ตรงข้าม กลับยิ่งหลงมัวเมากับรูปนิรมิตมายามากขึ้นทุกวัน เรียกว่า ไม่ได้เศษเสี้ยวนางสีดา
เราจึงเห็นโฆษณาเกินจริงชนิดเหลือเชื่อ แต่ก็ยังมีคนเชื่อ
เห็นดาราสวยหล่อมากมาย ที่หลายส่วนเกิดจากฝีมือนิรมิตของบรรดาคุณหมอ และข่างเสริมสวย แต่ผู้คนก็แห่ห้อมล้อมหน้าหลัง ชื่นชมปลื้มเปรมกับรูปมายา
และเห็นการหลอกลวงชนิดที่ไม่อายปากอายใจ เรียกว่า แข่งกันลวง แข่งกันหลอก ไปทุกระดับ จนถึงระดับชาติ
พอถูกจับได้คาหนังคาเขา ก็อ้างว่าเป็นโกหกขาว...
ไม่รู้ว่าช้าเกินไปหรือเปล่า ที่หลักสูตรการเรียนการสอนของเรา เพิ่งนำเรื่องการรับสารอย่างมีวิจารณญาณมาให้เรียนกัน หลังจากปล่อยให้คนรับสารแบบไร้วิจารณญาณกันมาเนิ่นนาน... นานจนน่ากลัวว่าจะสายเกินแก้
ก็เหมือนกองทัพพระลักษมณ์หลงภาพนิรมิตนั่นแหละ หลงจนมองไม่เห็นศรพรหมมาศในมือมาร...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น