วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ปริศนา...น่าคิด


อะไรเอ่ย....

การเล่นทาย  อะไรเอ่ย...หรือปริศนาคำทาย  เป็นการฝึกสมองทดลองปัญญา  ช่วยพัฒนาสมอง

ปริศนาคำทายในอดีต  สะท้อนเรื่องราววิถึชีวิตของคนในสังคม  ผ่านภูมิปัญญาทางภาษา  หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยปรากฏในปริศนาคำทาย  กลายเป็นเรื่องไกลตัวเมื่อยุคสมัยเปลี่่ยนไป

ข้าว และวิถีชีวิตชาวนาไทย  ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นเด่นชัดในปริศนาคำทาย

มารู้จักปริศนาคำทายที่สะท้อนเรื่องราวของข้าว  และวิถีชีวิตชาวนาในอดีตกัน

รูปลักษณ์ของข้าว

ต้นเท่าก้อย  ใบย้อยถึงดิน  เก็บเม็ดมากิน  หวาน ๆ มันๆ  (ต้น และเมล็ดข้าว)

หน้าแล้งอยู่ถ้ำ  หน้าน้ำอยู่ทุ่ง  (หน้าแล้งข้าวอยู่ในยุ้ง  หน้าฝนข้าวอยู่ในนา)



สภาพท้องนา  และวิธีการทำนา  ความร่วมมือร่วมแรงของคน กับควาย

คันอะไร  ไม่ต้องเกา  (คันนา)

แปดตีนเดินหน้า  สิบห้าลบรอย (ควายสองตัวลากคราดในนา  รอยคราดลบรอยตีนควาย)

แม่น้อยลูกมาก  พาลูกตกยาก  ลุยน้ำลุยโคลน  (ควายลากคราดในนา  ลูกคือฟันคราด)

สิบตีนยันธรณี  สามหางยาวรี  สี่เขาชี้ฟ้า  (คน กับควายสองตัวไถนา  สิบตีนคือตีนควายสองตัวกับตีนคน  สามหางคือหางควาย  กับหางไถ  สี่เขาก็คือเขาควาย)

เหวีียงหางฟาด  ขี้ราดเต็มทุ่ง (คนไถนา  คนเหวี่ยงหางไถ พลิกดินตามหลังรอยไถเหมือนกองอุจจาระ)

สามเศียร สิบบาทา  โยกย้ายไปมา  ขู่เคี่ยวคำราม (คนไถนา  หัวคนกับหัวควายสองตัวรวมเป็นสาม  เท้าคนกับเท้าควายรวมเป็นสิบ )

ไอ้ใบ้เดินหน้า  ไอ้บ้าตามหลัง  ไอ้ไม่รู้อยู่กลาง (คนไถนา  ไอ้ใบ้คือควาย  ไอ้บ้าคือคน  ไอ้ไม่รู้คือไถ)

จับหางขี้ไหล (คนไถนา  จังหางไถพลิกดินในนา)

ลิงหลังโกง  มาลงกลางนา  ไม่เดินหน้า  แต่เดินถอยหลัง (คนดำนา)

ตาแก่หลังโกง  เดินโทงๆ กินข้าวหมดทุ่ง (เคียวเกี่ยวข้าว  โค้งเหมือนหลังคนแก่)

ยายแก่หลังขด  กินหญ้าหมดทุ่ง (เคียวเกี่ยวข้าว)

ยืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลม (หุ่นไล่กา)

อ้วนเป็นกระปุก  ลุกไม่ขึ้น ( กองฟาง)

อ้วนกระปุ๊กลุก  มีกระดูกซี่เดียว (กองฟาง  มีไม้ปักเป็นหลักตรงกลาง)


กรรมวิธี  และเครื่องไม้เครื่องมือจากภูมิปัญญาไทย

ยิ่งถากยิ่งกว้าง  (ลานนวดข้าว)

กลมเหมือนพระจันทร์  ดันพุงสาว ๆ (ผู้หญิงฝัดข้าว)

กลมแบนสองแขนดันพุง (กระด้งฝัดข้าว)

วิ่งจี๋ ๆ ขี้ใส่กระจาด (เครื่องสีข้าว)

นั่งขัดสมาธิ  ขี้ราดเต็มตูด (เครื่องสีข้าว)



รูอะไรไม่ใหญ่ไม่เล็ก  ทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็ก  ชอบตำหนักหนา (ครกตำข้าว)

นกยางหลา่ยร้อย  มีรอยตีนเดียว (สากตำข้าว )

เจ้าขาวนอนในปลัก  คนไม่ผลักไม่ลุกขึ้น (ข้าวในครกตำข้าว)


สังคมเกษตรกรรมในอดีตที่สะท้อนอยู่ในปริศนาเหล่านี้  คงไม่อาจย้อนกลับคืนมาให้เห็นกันได้อีก  นอกจากบันทึกไว้ในความทรงจำ  ว่า  กาลครั้งหนึ่ง...นานมาแล้ว  เขาทำนากันอย่างนี้แหละ

หลายสิ่งเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

ทุกวันนี้ ควาย  หุ่นไล่กา  หมดบทบาทในท้องนา หรือแม้แต่ชาวนาไทย  ก็เปลี่ยนไปเยอะ  ประเภทหลังสู้ฟ้า  หน้าสู้ดิน  ขี่ควายร้องเพลงกลางทุ่ง  คงเหลืออยู่แต่ในหนังละครย้อนยุค

สมัยก่อน  ไม่มีเรื่องการรับจำนำข้าว  การรมยาฆ่าแมลง  และการแข่งขันกันอุตลุดในตลาดโลก  เรื่องเหล่านี้เป็นปริศนาของคนยุคนี้

ปริศนายุคก่อน  มีคำเฉลยที่เข้าทีเข้าท่า  พอเฉลย  คนก็ร้อง  อ๋อ...

แต่ปริศนาเกี่ยวกับข้าวสมัยนี้  ไม่มีคำเฉลย  หรือไม่ก็  เฉลยแล้ว  คนอาจร้อง..ไอ๊หยา...












1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณค่ะ ที่ยังมีเรื่องราวของชาวนนา ที่ปลูกข้าวให้เรากิน

    ตอบลบ