วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

เก่าไป...ใหม่มา

เก่าไป...ใหม่มา


เก่าไป...ใหม่มา  อะไรที่เก่า  เลิกใช้  ตกยุค  ก็กลายเป็น...โบราณ

ในพจนานุกรม  จะมีบางคำที่วงเล็บ (โบ) ไว้ข้างท้าย  หมายความว่าเป็นคำโบราณที่เลิกใช้กันไปนานแล้ว  อาจจะมีปรากฏอยู่ก็แต่ในหนังสือเก่า ๆ คนรุ่นเราส่วนมากไม่เคยรู้จัก

ส่วนคำ หรือสำนวนในสมัยนี้  ที่เรารู้จักและเคยใช้กันอยู่  หลายคำก็มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นคำโบราณไปในไม่ช้า  อย่างเช่น

สัมมาคารวะ  คำนี้ระยะหลัง ๆ ทำท่าว่าจะเสื่อมความนิยม   คนสมัยก่อนสั่งสอนกันมาแต่เล็กแต่น้อยให้มีสัมมาคารวะ  ยกย่องคนที่สูงกว่า ด้วยชาติวุฒิ  วัยวุฒิ คุณวุฒิ  แต่ยุคนี้ไม่สนใจไยดีแล้ว  การแสดงออก  และคำพูดจาแสดงออกชัดเจนว่าไม่เคยมีใครสั่งสอนหรือสอนแล้วไม่จำ  คำว่าสัมมาคารวะจึงไม่มีในจิตสำนึก  จะวุฒิไหนก็ไม่เคยรับรู้  อยากก้าวร้าวหยาบหยามผู้ที่สูงกว่าด้วยประการทั้งปวงก็แสดงออกมาได้  ไม่สะดุ้งสะเทือน  ไม่รู้สึกผิด  ส่วนคนที่รู้เห็น  ได้ยินได้ฟัง จะรู้สึกหรือไม่รู้สึกก็ขึ้นอยู่กับว่าเคยได้รับการสังสอนอบรมกันมามากน้อยแค่ไหน



รักนวลสงวนตัว  สำนวนนี้เคยเป็นคุณสมบัติของผู้หญิงดีๆ สมัยก่อน  แต่มาถึงสมัยนี้ก็กำลังจะหายไปอย่างรวดเร็ว  เพราะผู้หญิงยุคใหม่ไม่รักไม่สงวนอะไรกันแล้ว

สมัยก่อนเคยมีคำกล่าวเชิงปรามาสผู้ชายบางคนว่า "ไม่ได้เห็นขาอ่อน"  คือไม่มีหวังได้เชยชมสาวเจ้า  เพราะขาอ่อนเป็นของสงวน  ไม่เปิดให้ใครเห็นง่าย ๆ แต่สมัยนี้ถือว่าขาอ่อนเป็นของสาธารณะ  ใครอยากดูก็ดูได้ทุกที่  ทุกเวลา  ไม่มีการสงวนอะไรไว้อีกต่อไป  มีแต่เชื้อเชิญ

แต่สำนวนที่กลับมาอยู่ในสมัยนิยมคือ "ชิงสุกก่อนห่าม"  ถึงขนาดที่มีการรณรงค์ให้เก็บอีกนิด  สงวนไว้อีกหน่อย ก็ยังยั้งไม่หยุดฉุดไม่ไหว  จนเมืองไทยเป็นเจ้าของสถิติมีแม่วัยรุ่น  ตั้งครรภ์ไม่พร้อมเป็นอันดับหนึ่้งในเอเซีย


อาย  คำกล่าวโบราณๆ อีกเหมือนกัน  กล่าวว่า  ความอายเป็นอาภรณ์ของสตรี  แต่ตอนนี้ผู้หญิงยุคใหม่  สลัดทิ้งทั้งอาภรณ์และความอาย  มีแต่กล้า  กล้าพูด กล้าแสดง  กล้า ฯลฯ จะรักใครเกลียดใครต้องแสดงออกให้สุด ๆ เหมือนมนุษย์ยุคหินเก่า  ไม่ใช่มนุษย์ที่ผ่านวิวัฒนาการมานานนักหนา

ไม่เฉพาะสาว ๆ ที่เลิกอาย  คนใหญ่คนโตระดับประเทศก็ดูเหมือนเลิกอายกันไปหมด  ทำผิดทำชั่ว  คนจับได้ไล่ทันทวงถามความรับผิดชอบก็ทำไม่รู้ไม่ชี้  หาเรื่องแก้ตัวไปได้น้ำขุ่นคลั่ก  ใครอยากวิพากษ์วิจารณ์  ตั้งฉายาอะไร  ยังไง  ไม่สนใจ...ไม่อายเสียอย่าง  ใครจะทำไม

ส่วนตัวอักษรไทยที่เราเคยเรียนมา  มี ๔๔ ตัว  บางตัวอาจกลายเป็นอักษรโบราณ  ที่น่าจะคงอยู่ได้ไปอีกนาน  เห็นจะเป็นอักษร  เพราะยิ่งนับวัน คนไทยยิ่งเคยนิยมการขอ  สนองนโยบายพี่มีแต่ให้  แต่เงินของใครพี่ไม่สน  ส่วนอักษรที่คงจะต้องหายไป  คืออักษร   เพราะยิ่งขอยิ่งได้  แต่ให้เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ

ถึงจะรู้ว่าทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง  แต่การเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็น่าใจหาย






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น