วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

คนไทยพันธุ์ใหม่

คนไทยพันธุ์ใหม่


มองภาพเด็กไทยวันนี้  ที่เห็นตามสื่อต่าง ๆ รวมทั้งตามถนนหนทาง  ศูนย์การค้า ฯลฯ    ประกอบกับมองทิศทางการศึกษาไทยทุกวันนี้  ก็พอจะจินตนาการภาพคนไทยพันธุ์ใหม่ในอนาคตอันใกล้ได้

เป็นพันธุ์ใหม่ที่ไม่ได้เกิดจากการคัดสรรคุณลักษณะที่ดีที่สุด  แต่เป็นการกลายพันธุ์ที่เกิดจากการปรับตัวไปตามยุคสมัย  เหมือนพืช  สัตว์  หรือเชื้อโรคหลายสายพันธุ์


ทั้งภาพลักษณ์ที่ถูกครอบงำด้วยแฟชั่นอเมริกันบ้าง เกาหลีบ้าง

ทั้งภาษาที่วิบัติไปเรื่อย ๆ เพราะขาดรากฐาน  และขาดจิตสำนึก

รวมทั้งความคิดที่สับสนคล้ายโรฮิงญาพลัดถิ่น  ไม่สามารถจะบอกได้ว่า  ตัวเองเป็นใคร  มาจากไหน...

ไม่รู้ว่าสถานศึกษาแต่ละแห่งคิดอย่างไรในการปรับหลักสูตรให้อินเต๊อ...อินเตอร์  โดยมองข้ามการสร้างรากฐานความเป็นคนไทยให้มั่นคงแข็งแรง

เหมือนตะบี้ตะบันจะให้รู้เขา...แต่ไม่รู้เรา !!!

แบบนี้ศิษย์ซุนวูบอกได้เลยว่า  ไม่ต้องรบถึงร้อยครั้งหรอก แค่ครั้งแรกก็แตกกระเจิง

ประวัติศาสตร์ไทยถูกถามหาครั้งแล้วครั้งเล่า  หลังจากความจริงฟ้องว่าคนไทยวันนี้  ขาดจิตสำนึกในความเป็นไทย

ไม่ตระหนักว่า  แผ่นดินไทยทุกวันนี้  ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อชีวิตของบรรพบุรุษมามากน้อยแค่ไหน

คนไทยไม่ต้องเร่ร่อนไปอาศัยบ้านเมืองอื่น  ไปเป็นประชาชนชั้นที่สองทีสาม... มีศักดิ์ศรี  มีชาติ  มีภาษาของตนเอง  แต่ลูกหลานไทยกลับไม่เห็นค่า

ภาษาไทยถูกตัด  ถูกบั่นทอนออกจากหลักสูตร  เพื่อเปิดเนื้อที่ให้ภาษาต่างด้าว  และความรู้จับจดทั้งหลายแหล่เข้ามาแทน  เพราะขาดความตระหนักว่าภาษาเป็นรากเหง้าของวัฒนธรรม  เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะปลูกฝังความรู้ความคิดทั้งหลายทั้งปวง

เด็กไทยส่วนมากจึงได้เรียนภาษาไทยแค่ระดับพื้นฐานซึ่งเป็นมาตรฐานต่ำสุดที่กำหนดไว้  เพื่อเอื้อต่อเด็กด้อยโอกาส  และอยู่ห่างไกลการพัฒนา

ส่วนที่หลักสูตรเปิดโอกาสให้โรงเรียนพัฒนาวิชาเพิ่มเติมได้อย่างเสรี  โดยคาดหวังว่าตรงนี้แหละจะเป็นการเจียระนัยเด็กที่มีความถนัดทางภาษาให้รู้ลึก  รู้กว้าง  เกิดความรัก  เห็นคุณค่าของแต่ละวิชา  จนค้นพบตัวเอง  กลับถูกปิดลง

การลด  การปิดวิชาภาษาไทย  จึงเป็นการปิดโอกาสเด็กไม่ให้ได้มองเห็นเส้นทางอีกสายหนึ่ง  และทางสายนี้แหละที่สร้างนักภาษา  นักคิด  นักเขียน  นักพูด ฯลฯ ที่สร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่าอยู่ทุกวันนี้


โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสร้างครูภาษาไทยรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ  ไม่ใช่สักแต่เรียนเพราะไม่รู้จะเรียนอะไร  และวันหนึ่งก็จะเป็นครูภาษาไทยที่ทำให้เด็กเบื่อหน่ายภาษาไทยหนักเข้าไปอีก

คนไทยเจนเนอเรชั่นใหม่  คงเป็นคนไทยที่พูดภาษาไทยได้แค่สื่อสาร  แบบผิด ๆ ถูก ๆ ใกล้เคียงพม่า ลาว เวียตนาม ฯลฯ

วรรณคดีชั้นสูง  ไม่รู้ว่าจะขึ้นหิ้งหรือเก็บใส่กรุ  เพราะไม่มีคนอ่าน

และภาษาสวย ๆ ก็คงสูญหายไป  เหลือแต่ภาษาลวก ๆ ไร้คุณค่า  เหมือนอาหารฟาสต์ฟู้ด

ที่สำคัญคือ  คนไทยรุ่นใหม่จะขาดจิตสำนึกในความเป็นชาติ  กลายเป็นชนเผ่าน้อยในอาเซียน

เด็กไทยทุกวันนี้  ไม่ได้ถูกปลูกฝังจิตสำนึกรักชาติ รักแผ่นดิน

แต่ฝังหัวอยู่ทุกวันว่าเมื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียน  ทุกคนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในอาเซียน  พูดภาษาอาเซียน  วิ่งไปหางานทำในอาเซียน  เพื่อเปิดโอกาสให้คนในอาเซียนแห่กันมาหากินในเมืองไทยแทน

แล้วอีกไม่ช้า  แผ่นดินทองของไทย  จะกลายเป็นขุมทรัพย์ของพม่า  ลาว  เวียตนาม มาเลย์ ฯลฯ

ภาษาไทยกลายเป็นภาษาถิ่นของชนกลุ่มน้อย  และอาจตายไป  เมื่อไม่มีคนสนใจจะสื่อสารกันด้วยภาษานี้อีกต่อไป

เหลือแต่ประวัติศาสตร์ที่อาจจารึกไว้ว่า  ที่นี่...เคยเป็นประเทศไทย  และคนที่เคยอยู่ตรงนี้  ครั้งหนึ่งเคยสื่อสารกันด้วยภาษาไทย

อนิจจา...ประเทศไทย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น