ฤกษ์โจร
ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร
คำกล่าวนี้ เกิดขึ้นเพราะสมัยก่อน การทำสงครามแย่งชิงบ้านเมือง เขาเรียกว่าปล้นบ้านปล้นเมือง ฝ่ายชนะก็สถาปนาตัวขึ้นเป็นใหญ่ ส่วนฝ่ายแำพ้ก็กลายเป็นเชลยบ้าง เป็นกบฏบ้าง
มาถึงยุคนี้ การปล้นบ้านปล้นเมืองก็ยังมีอยู่ แต่ปล้นแบบเนียน ๆ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ก็เลยผลัดกันเป็นเจ้า ผลัดกันเป็นโจร จนบางทีคนดูก็สับสน ไม่แน่ใจว่าวันนี้ใครเป็นเจ้าใครเป็นโจร เป็นโจรชั่วคราวหรือโจรแบบถาวร หยั่งรากฝังลึกอยู่ในกมลสันดานมากน้อยแค่ไหน

ในตำราหมอดูนั้น ฤกษ์โจร หรือโจโรฤกษ์ เป็นชื่อห้วงเวลาหนึ่งในจักรราศี ที่ตามตำราบอกว่า เป็นห้วงเวลาที่ให้คุณต่อบรรดาโจรทั้งหลาย เหมาะสำหรับการแย่งชิง ปล้นฆ่าทำลายล้าง ฯลฯ ส่วนเด็กที่เกิดใต้ฤกษ์โจร ก็มักจะมีนิสัยส่อไปในทางโจรๆ นี่แหละ แต่ถ้าบังเอิญตอนเกิดมามีดาวศุภเคราะห์ให้คุณอยู่บ้าง ก็อาจไม่ถึงกับเป็นโจร แต่ก็ยังมีนิสัยชอบแข่งขันแย่งชิง บรรดาโหราทั้งหลายจึงมักแนะนำคนที่มีลูกหลานบังเอิญเกิดในฤกษ์นี้ให้เลี้ยงดูส่งเสริมให้เป็นนักกีฬาอะไรสักอย่าง แล้วก็ลุ้นให้ลงไปแข่งขันกันในสนามตามกฏกติกาเสียให้รู้แล้วรู้รอด ซึ่งว่ากันว่าคนเกิดฤกษ์นี้แข่งอะไรก็มักจะชนะเสียด้วย

คนที่เกิดฤกษ์โจร ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ก็มีอยู่ ๒-๓ คน ที่พอเอ่ยถึง คนมักจะร้อง อ๋อ...
คนแรกก็คือ พระเจ้าอชาตศัตรู โอรสตัวร้ายของพระเจ้าพิมพิสาร ตอนเกิดมาหมอดูก็ทำนายทายทักว่าโอรสองค์นี้จะเกิดมาเป็นศัตรูกับพ่อ สมควรฆ่าทิ้งเสียดีกว่า แต่พระเจ้าพิมพิสารก็ใจไม่ด้านพอ ได้แต่ตั้งชื่อแก้เคล็ดว่า อชาตศัตรู ก็คือไม่ได้เกิดมาเป็นศัตรู แต่ปรากฏว่าชื่อไม่ขลังพอ อชาตศัตรูโตขึ้นก็แย่งราชบัลลังก์ แถมยังจับพ่อไปขังไว้จนสิ้นพระชนม์ นี่แหละ โทษฐานไม่เชื่อหมอดู
และพระเจ้าอชาตศัตรูนี้เอง พอเป็นกษัตริย์ก็เที่ยวรุกรานปล้นบ้านเมืองคนอื่น รวมทั้งการวางแผนส่งวัสสการพราหมณ์เข้าไปทำลายสามัคคีธรรมของกษัตริย์ลิจฉวีเสียย่อยยับ นี่ขนาดเป็นโอรสกษัตริย์ พระบิดาก็ธรรมะธรรโม แววโจรยังโดดเด่น ยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่

แล้วก็ปรากฏว่าหมอดูก็ทำนายแม่นเป๊ะอีกเหมือนกัน เพราะอหิงสกะซึ่งแรกเริ่มเดิมทีก็เหมือนจะดี บังเอิญไปเจออาจารย์ไร้จรรยาบรรณ กลัวลูกศิษย์ได้ดีเกินหน้า เลยหลอกให้ไปฆ่าคนให้ได้พันคน กลายเป็นจอมโจรองคุลีมาล ฆ่าตนไป ๙๙๙ คน เกือบจะฆ่าแม่ตัวเองเป็นคนที่ ๑,๐๐๐ โชคดีพระพุทธเจ้าไปขวางไว้ทัน เทศนาจนเปลี่ยนเส้นทางชีวิต หันมาบวชเป็นภิกษุ ท้ายสุดได้บรรลุอรหันต์ หลุดจากอิทธิพลของฤกษ์โจรไป
ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ กามนิต พ่อค้าหนุ่มแห่งเมืองโกสัมพี เรื่องนี้เคยเป็นหนังสือเรียน ตอนนี้ก็ยังเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา กามนิตเกิดมาในยุคเดียวกับองคุลีมาลนี่แหละ ตอนเป็นพ่อค้านำสินค้าไปขายต่างเมืองถูกองคุลีมาลปล้นกลางทาง แต่รอดชีวิตเพราะพ่อรวย เลยถูกจับไว้เป็นตัวประกันให้พ่อส่งค่าไถ่มาให้ ระหว่างที่เป็นตัวประกันนี้เอง กามนิตได้พบกับวาชศรพซึ่งเป็นอาจารย์สอนโจรในสังกัดองคุลีมาล วาชศรพคนนี้ก็เกิดฤกษ์โจรเหมือนกัน เลยมาเป็นโจรตามดวง วาชศรพทำนายว่ากามนิตก็เกิดฤกษ์โจร ยังไง ๆ ก็ต้องเป็นโจร ฟันธง !
สรุปว่ากามนิตก็ตายไปโดยไม่ได้เป็นโจร กลับได้ไปเ้กิดในแดนสุขาวดี กลายเป็นกามนิต ภาค ๒
ทั้งหลายทั้งแหล่นี้ ก็คงจะสรุปได้ว่า อชาตศัตรู และองคุลีมาลนั้น เกิดมาเพื่อจะเป็นโจร ส่วนกามนิต ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า และที่ไม่ได้เป็นโจรทั้ง ๆ ที่เข้าไปอยู่ในหมู่โจร นั่งฟังวาชศรพอบรมหว่านล้อมอยู่นานโข ก็คงเป็นเพราะไม่มีสันดานเป็นโจร
ส่วนหลายคนที่เราเห็นท่้าทางเหมือนโจรอยู่ตอนนี้ ไม่แน่ใจว่าเกิดฤกษ์โจร เป็นโจรแท้ในกมลสันดาน หรือได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นโจร หรือเกิดจากค่านิยมเห็นคนมีพฤติกรรมเป็นโจรแล้วได้ดีมีสุขไปตาม ๆกัน เลยเอาอย่าง ก็ไม่รู้
ที่น่าแปลกใจก็คือ ฤกษ์โจรก็เป็นห้วงเวลาสั้น ๆ ในบรรดาสารพัดฤกษ์ คนทีเกิดฤกษ์นี้ถ้าคิดเป็นอัตราส่วนก็น่าจะไม่กี่เปอร์เซ็นต์
แต่ทำไมตอนนี้ เหมือนมีโจรเกลื่อนไปหมด
โจรใต้ก็มี โจรเมืองหลวงก็เพียบ โจรปล้นบ้านเมือง ปล้นเงินภาษีประชาชนก็ยุ่บยั่บไปหมด
ใครมีลูกหลานเกิดฤกษ์โจร รีบส่งเสริมให้เป็นนักกีฬาเร็ว ๆ นะ ให้ไปแข่งแย่งเหรียญแย่งถ้วยในสนาม สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ
ดีกว่าปล่อยให้มาเป็นโจรเล็ก โจรใหญ่ โจรระดับชาติ เพ่นพ่านสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอย่างทุกวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น