วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หัวใบ้ท้ายบอด

หัวใบ้ท้ายบอด


หัวใบ้ท้ายบอดเป็นการเล่นแข่งเรือแบบชาวบ้าน  เพื่อความสนุกสนาน

กติกาก็คือ คนที่พายหัวต้องใช้ผ้าผูกปาก  คือห้ามพูดห้ามบอกทาง  ส่วนคนพายท้ายที่ต้องเป็นคนกำหนดทิศทางต้องเอาผ้าผูกตา  ไม่ให้เห็นทาง

เรือที่คนพายหัวใบ้ท้ายบอด  จึงสะเปะสะปะไร้ทิศทาง  ถ้าเป็นการแข่งหลายลำก็ชนกันเละ  ไม่ก็ชนตลิ่ง  ชนสะพาน ฯลฯ

ส่วนมากไม่ได้แข่งกันว่าใครจะไปถึงเส้นชัย
แข่งกันแค่ว่า  ใครจะล่มก่อนล่มหลังเท่านั้นแหละ

คล้าย ๆ กับการกำหนดนโยบายอะไรต่อมิอะไรเวลานี้
คนที่กำหนดนโยบายไม่รู้ทิศทาง  ไม่ได้มองเป้าหมาย  เอาแค่ถูกใจมวลชน  อยากได้อะไร จัดให้..
ส่วนจะนำพาไปสู่อะไร ? ไม่รู้...

ส่วนคนที่พอจะรู้ก็ปิดปาก  เล่นบทใบ้ไม่ทักไม่ท้วง จะไปทางไหนก็ไป  ล่มเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น

เราจึงได้เห็นนโยบายไร้ทิศทาง  ไม่ว่าจะเป็นรถคันแรก  รับจำนำข้าว  เพิ่มค่าแรง ฯลฯ  ล้วนได้ใจมวลชน  ส่วนปัญหาอะไรจะตามมา  คนให้นโยบายไม่เกี่ยว  ใครเจอปัญหาก็แก้ปัญหากันไปก็แล้วกัน

รวมทั้งนโยบายการศึกษา  ที่ว่าด้วยเรื่องทรงผม มาจนถึงประชานิยมเอาใจคุณหนู  ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน  ไม่อยากทำการบ้านก็ไม่ต้องทำ

ส่วนโจทย์ปัญหาของการศึกษาไทยที่ว่าผลการเรียนของเด็กต่ำเตี้ย  เด็กเรียนจบประถมอ่านหนังสือไม่ออก  จบมัธยมเขียนหนังสืออ่านไม่รู้เรื่อง  ไปจนถึงระดับอุดมศึกษาทำงานอะไรก็ไม่เป็น  ปรากฏว่าตอนนี้ยังไม่มีทิศทางนโยบายอะไร  เพราะเผอิญมองไม่เห็นทาง

ก็เลยกลายเป็นนโยบาย "เรียนสนุก  ลุกนั่งสบาย  ครูสอนตลก  เด็กสอบตกมากมาย" เอาใจมวลชนไว้ก่อน

คิดถึงพระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ ๖  ที่ว่า
"หนทางสู่เกียรติศักดิ์    จักประดับด้วยดอกไม้
หอมอวลยวนจิตไซร้     ไป่มี"

ผลการศึกษาเขาค้นพบมาตั้งนานแล้วว่าที่การเรียนของเด็กไทยตกต่ำย่ำแย่ทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะไอคิวต่ำเตี้ยกว่าเขาอื่น  แต่เพราะขาดความมุ่งมั่น  ขยันน้อย  ไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน  ในขณะที่เด็กประเทศอื่นเขามุ่งมั่นกว่า  เขาก็เลยนำหน้าไปลิ่ว ๆ

วิสัยทัศน์การศึกษายุคนี้   ก็คือมุ่งเตรียมคนให้มีศักยภาพสำหรับอนาคต เพื่อก้าวสู่ตลาดแรงงาน จึงเน้นให้โรงเรียนเป็นโรงฝึกงาน ฝึกให้เด็กมีความรู้  ทำงานให้เป็นเสียตั้งแต่ตอนเรียน  จะได้เป็นการสร้างนิสัยและพื้นฐานตั้งแต่ต้น

มาเจอนโยบายเรียนน้อย  ไม่ต้องทำงาน  ก็เหมือนคนคัดท้ายพาหลงทิศ

มีตลาดแรงงานที่ไหนบ้าง อยากได้คนที่ความรู้ก็น้อยนิด ความชำนาญก็ไม่มี แถมยังขาดความมานะ อดทน  แค่ทรงผมสวยอย่างเดียวคงไม่พอหรอกนะ

ถ้าจะอ้างเรื่องเครียด ไปถามคนทำงานทุกวันนี้ มีงานอะไรที่ไม่เครียด

ยิ่งที่ทำงานที่มีผู้บริหารบ้าๆบอๆ ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่

ไม่ฝึกบริหารความเครียดเสียตั้งแต่ตอนเรียน ไปทำงานจริงมีหวังสติแตก

ก็ขนาดผู้ใหญ่ ผ่านการเรียน การทำงานมานักต่อนักแล้ว
มาเห็นการบริหารแบบหัวใบ้ท้ายบอดตอนนี้ ยังเครียดเลย












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น