วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เล่ห์กล...มนตร์คาถา

เล่ห์กล...มนตร์คาถา


 "ไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล  ไม่ได้ด้วยมนตร์ต้องเอาด้วยคาถา"

เป็นภาษิตประจำใจของคนที่จะเอาให้ได้  และใช้ทุกวิถีทางให้ได้มาโดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบ ชั่วดี

พูดถึงเล่ห์กล  มนตร์คาถา  ทำให้คิดถึงปู่เจ้าสมิงพรายจอมขมังเวทย์ในเรื่องพระลอ

พระลอเป็นกษัตริย์หนุ่มแห่งเมืองสรวงซึ่งรูปหล่อมากมาย  หล่อเสียจนบรรดาศิลปินทั้งหลายแหล่นำไปแต่งเพลง  เปิดคอนเสิร์ตที่ไหนก็บรรเลงเพลงยอยศพระลอ  ก็ที่นักร้องลูกทุ่งเอามาร้อง "รอยรูปอินทร์หยาดฟ้า  มาอ่าองค์ในหล้าแหล่งให้คนชม...." นั่นแหละ


แล้วเพลงพระลอก็ฮิตติดอันดับ  เผยแพร่กันต่อๆ ไป  จนได้ยินไปถึงสองสาว พระเพื่อนพระแพง  แห่งเมืองสรอง  ซึ่งกำลังวัยรุ่น  ก็เลยเกิดอาการคลั่งดารา  อยากเห็น อยากได้พระลอเอามาก ๆ

ข้างพี่เลี้ยงสองสาว  แทนที่จะห้ามปราม  ก็กลับสนองตามสไตล์คนรับใช้ในฝัน  พยายามหาวิธีการให้ได้ตามต้องการ  ครั้นจะทอดสะพานเชื้อเชิญกันไปตามแบบแผนประเพณีก็เป็นไปไม่ได้  เพราะไทเฮาแห่งเมืองสรองผู้เป็นย่า  ถือว่าเมืองสรวงเป็นศัตรูคู่อาฆาต  เนื่องด้วยสวามีสิ้นพระชนม์เพราะทำสงครามกับเมืองสรวงนี่แหละ



จึงต้องอาศัยเล่ห์กล  มนตร์คาถา  อย่างที่ว่า

สองพี่เลี้ยงก็เที่ยวเสาะแสวงหาหมอเสน่ห์  เพื่อเรียกให้พระลอเดินทางมาเมืองสรอง

แต่บรรดาหมอเสน่ห์ทั้งหลายแหล่  พอได้ยินว่าจะให้ทำเสน่ห์พระลอ  ก็ล้วนแต่ส่ายหัว  ไม่เอาด้วย

เหตุผลก็คือ  เพราะพระลอเป็นกษัตริย์  คนที่เป็นกษัตริย์ก็ย่อมมีบุญบารมีมาก  การทำเสน่ห์  หรือทำอะไรที่ไม่ดีกับคนมีบุญบารมี เชื่อกันว่า นอกจากจะไม่สำเร็จแล้วยังจะสะท้อนเข้าตัว  ยิ่งมีบุญบารมีมาก  ผลก็จะสะท้อนกลับ เร็ว...และ  แรง

พี่เลี้ยงสองสาวก็ไม่ละความพยายาม  ดั้นด้นไปจนเจอปู่เจ้าสมิงพราย  ซึ่งเรียกได้ว่า  เป็นสุดยอดหมอผี  มีคาถาอาคมแก่กล้าที่สุด แล้วก็อ้อนวอนจนสำเร็จ..



เหตุที่ปู่เจ้าสมิงพรายตกลงใจรับงาน  ไม่ใช่เพราะใจอ่อน  หรือเห็นเงินแล้วตาโต  แต่เป็นเพราะสแกนกรรมแล้วพบว่า  พระลอ พระเพื่อน  พระแพงนั้น  เคยทำบุญร่ีวมกันมา  เป็นเหตุให้พระเพื่อนพระแพงเกิดปิ๊งพระลอเสียหนักหนาทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตา

แต่ถ้าทำบุญร่วมกันมาดีๆ บุพเพสันนิวาสก็คงชักพาให้ได้เป็นคู่กันดี ๆ เผอิญบุญที่ทั้งสามคนทำไว้ เป็นบุญที่ "ตึงๆ หย่อนๆ"  ก็เลยเป็นเหตุให้ความรักของพระลอ กับพระเพื่อนพระแพง  เป็นแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ

ด้วยเหตุนี้แหละ  ปู่เจ้าก็เลยจัดให้

ด้วยการเสกสลาเหิน  คือหมากบิน  ไปเร่งให้พระลอร้อนรนกระวนกระวายต้องออกจากเมืองสรวง  แล้วก็ส่งไก่แก้วให้ไปนำทาง  จนพระลอข้ามแม่น้ำกาหลงมายังเมืองสรอง  ดินแดนของศัตรูคู่อริ


แล้วท้ายที่สุด  ทั้งสามคน คือพระลอ พระเพื่อน พระแพง  ก็ได้ใช้บุญ  มีความสุขด้วยกันหน่อยหนึ่งก่อนจะใช้กรรมคือถูกจับได้  แล้วก็โดนสังหารหมู่ตายไปด้วยกัน  รวมทั้งนางพี่เลี้ยงจอมวางแผนด้วย

เรื่องของการจะเอาอะไรต้องเอาให้ได้  ไม่ต้องคำนึงถึงความผิดถูก  รวมทั้งไม่คิดถึงผลที่จะตามมา  ถ้ามองแบบคนเชื่อกฏแห่งกรรม  ก็คงเหมือนที่พระลอบอกพระนางบุญเหลือ  ว่า



ถึงกรรมจักอยู่ได้       ฉันใด  พระเอย
กรรมบ่มีมีใคร            ฆ่าข้า
กุศลส่งสนองไป        ถึงที่  สุขนา
บาปส่งจำตกช้า        ช่วยได้ฉันใด

แปลง่าย ๆ ก็คือ  สุดแต่เวรกรรม  ถึงเวลาใครก็ห้ามไม่ได้  ทำกรรมอย่างไรก็คงต้องได้อย่างนั้นแหละ

แต่ถ้ามองในแง่บรรดาหมอเสน่ห์ทั้งหลาย  ก็สะท้อนความเชื่ออีกด้านหนึ่ง  คือความเชื่อว่าการทำอะไรที่ไม่ดีกับคนที่มีบุญบารมีมากนั้น  ผลจะย้อนกลับมาหาตัวเอง

เผอิญพระลอ  ทำบุญไว้แบบ "ตึง ๆ หย่อนๆ"  ถึงจังหวะเวลาที่บุญมันหย่อน  กรรมก็เลยแซงหน้า

แต่ถ้าไปล่วงล้ำก้ำเกินกับคนดี  คนที่สั่งสมบุญบารมีไว้มั่นคงยาวนาน
ผลมันจะย้อนกลับมาหาตัวเอง  เร็ว และแรง..ยิ่งกว่าบูมเมอแรง

เรื่องแบบนี้  ไม่เชื่ออย่าลบหลู่







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น