วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สุดยอดวิทยายุทธ์

สุดยอดวิทยายุทธ์





กวีมีหลายประเภท  สุนทรภู่ จัดว่าเป็นจินตกวี  เพราะเป็นนักคิดนักฝัน  เขียนเรื่องจากจินตนาการเป็นส่วนใหญ่  และจินตนาการของสุนทรภู่ก็ล้ำหน้า  นำสมัยกว่าคนในยุคเดียวกัน

ความคิดฝันของสุนทรภู่ในยุคนั้น  หลายอย่างเพิ่งมาปรากฏให้เห็นในยุคนี้  เป็นต้นว่า  บรรดานางเอกที่ฉีกภาพนางในวรรณคดีงามเสงี่ยม  มาเป็นนางเอกแสบซ่า  หลากสไตล์ อย่างสุวรรณมาลี "มเหสีขี้หึงประหนึ่งเสือ"  นางละเวงโฉมงามเจ้าเสน่ห์ที่ใช้สารพัดเล่ห์กลเพื่อชัยชนะ  ไปถึงนางเอกรุ่นลูก อย่างเสาวคนธ์ที่เล่นหัวคลุกคลีกับสุดสาครมาแต่เด็ก จนเกือบจะกลายเป็นทอม...

แนวคิดที่น่าสนใจ  นำสมัยล้ำยุคอีกอย่างหนึ่งก็คือการสร้างพระเอกให้เป็นเด็กกิฟเต็ททางดนตรี


พระอภัยมณีเริ่มค้นพบตัวเองตั้งแต่แรกว่าไม่อยากเรียนสรรพวิชาที่บรรดาลูกกษัตริย์ทั้งหลายเขาเรียนกัน  เป็นต้นว่า  วิชาหนังสือ การรบ หรือการปกครอง ก็เลยลาพระบิดาออกแสวงหาอาจารย์  ในที่สุดก็ไปเจอสำนักที่เปิดสอนวิชาที่โดนใจ  คือวิชาดนตรี  แต่ก็เกือบหงายเก๋งเมื่อมองเห็นป้ายประกาศ  บอกราคาค่าลงทะเบียนเรียนสูงลิบลิ่วถึงแสนตำลึงทอง  เทียบกับสมัยนี้ก็น่าจะหลักล้าน

โชคดีที่พระอภัยมณีเป็นลูกกษัตริย์  พอมีสมบัติติดตัว  ก็เลยถอดแหวน  จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน

ร่ำเรียนจนจบแล้วนั่นแหละ  พระอาจารย์ถึงได้เปิดใจให้เหตุผลว่าทำไมค่าเล่าเรียนถึงโหดนัก

"ซึ่งดนตรีตีค่าไว้ถึงแสน          เพราะหวงแหนกำชับไว้คับขัน
ใช่ประสงค์ตรงทรัพย์สิ่งสุวรรณ  จะป้องกันมิให้ไพร่ได้วิชา
ต่อกษัตริย์เศรษฐ๊มั่งมีทรัพย์       มาคำนับจึงได้ดังปรารถนา"

พระอาจารย์แกคงซึ้งกับ "ไพร่" เสียจนขยาด  ไม่อยากถ่ายทอดวิชาอะไรที่ดีๆ ให้  เพราะกลัวไพร่เอาไปทำเสียหายหมด

ก็เลยคิดแบบคนสมัยก่อนว่า  กษัตริย์เศรษฐี  ก็น่าจะมีพื้นฐานการอบรมมาดี  แถมเงินทองก็คงมีเยอะแล้ว  คงไม่เอาวิชาดี ๆ ไปใช้ทำมาหากิน  แสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ

นับว่ามีเหตุผลฟังได้ทีเดียว  ติดอยู่นิดหนึ่งก็ตรงที่ว่า  พระอาจารย์อาจจะคิดผิดว่าคนรวยแล้วจะไม่โกง  เพราะความจริงที่เห็นทุกวันนี้  ยิ่งรวยก็ยิ่งโกง

วิชาทั้งหลายนั้น ก็เหมือนอาวุธ ใช้ดีก็มีคุณอนันต์  แต่ถ้าใช้ไม่ดีก็มีโทษมหันต์

เหมือนที่พระอภัยมณีบอกกับสามพราหมณ์ว่า
"อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป    ย่อมใช้ได้ดังจินดาค่าบุรินทร์
ทั้งมนุษย์ครุฑาเทวราช         หมู่สัตว์จตุบาทในไพรสินฑ์
แม้ปี่เราเป่าไปใครได้ยิน        ก็สุดสิ้นโมโหที่โกรธา"

เพลงปี่พระอภัยใครได้ยินก็หลงใหลใจอ่อน  พระเอกเรื่องนี้ก็ชนะใจบรรดาสาว ๆ เพราะเสียงปี่ออดอ้อนราวกับพระเอกยี่เกอ้อนแม่ยก  แม้แต่นางละเวงซึ่งตั้งใจมาล้างแค้น  ก็ยังตกหลุมรักพระเอกศิลปิน

ในตอนจบเรื่อง  เมื่อทั้งสองฝ่ายรบกันจนหมดแรง  พระอภัยก็ใช้เสียงปี่นี่แหละกล่อมให้คนคิดถึงบ้าน เลิกรบราฆ่าฟัน  ยุติสงครามได้

แต่เพลงปี่พระอภัยไม่ใช่แค่อ้อนให้คนหลง ในเวลาคับขันก็กลายเป็นเสียงปี่สังหาร  ก็ตอนที่พระอภัยเป่าปีสังหารนางผีเสื้อสมุทรนั่นยังไง

ดีที่พระอภัยมีพื้นฐานไม่ต่ำช้า  เลยใช้เฉพาะเมื่อเข้าตาจน ไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อไปทั้งเรื่อง  ไม่อย่างนั้น  เรื่องพระอภัยมณีจะกลายเป็นหนังกำลังภายใน  ไม่พอใจใครก็งัดปี่ออกมาเป่าให้ตาย ๆ  ไปให้หมด

คนที่ชอบดูหนังจีนประเภทกำลังภายใน  จะเห็นว่า บรรดาปรมาจารย์ผู้เยี่ยมบุทธ์ทั้งหลายก็เหมือนอาจารย์พระอภัยนี่แหละ  แต่ละคนล้วนหวงวิชา  กว่าจะรับเป็นศิษย์ได้ก็ต้องตรวจสอบกันหลายยก  คนที่จะได้เรียนสุดยอดวิชาทั้งหลายจึงต้องมีคุณสมบัติไม่ต่ำช้าเหมือนกัน  ก็แล้วแต่ว่าสำนักไหนต้องการลูกศิษย์แบบไหน  แต่ที่แน่ ๆ คือ  ไม่ใช่อยากเรียนก็ เิดินเข้าไปเรียนเหมือนตลาดวิชา


ไม่เหมือนยุคปัจจุบันที่มีสารพัดวิชาให้เรียนได้อย่างเสรี  แจกปริญญากันเป็นว่าเล่น  คนดี คนต่ำช้า  ก็เรียนวิชามาเหมือนกัน

เราจึงเห็นคนมีวิชาแต่ไร้คุณธรรม  เกลื่อนเมือง

นั่งดูข่าวทุกวันนี้แล้วอัศจรรย์ใจ  เออแน่ะ...ช่างสรรหาวิธีการมาคดโกง  ทุจริตกันได้สารพัด  ล้วนแต่คนเก่งกาจทั้งนั้น

เก่งเทคโนโลยี  ก็สร้างนวัตกรรมไปใช้ก่ออาชญากรรม  ทำลายล้างกันเป็นว่าเล่น
เก่งคอมฯ ก็หาวิธีพลิกแพลง  ขโมยข้อมูล  สร้างไวรัส  ทำเว็บเลวร้ายได้ต่าง ๆ
เก่งธุรกิจ  ก็พิฆาตฟาดฟัน  เชือดเฉือนกันทางธุรกิจ  แบบใครดีใครอยู่


ไม่ว่าเก่งอะไร  อยู่ในวงการไหน  โกงได้ทุกเรื่อง

ที่เก่งกาจน่าประทับใจที่สุดตอนนี้  น่าจะได้แก่นักกฏหมายเมืองไทย  ที่ล้วนแต่เรียนจบจากสำนักชั้นยอดแต่นำวิชาความรู้มาใช้แบบวิปริตผิดประหลาดชนิดที่อาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาก็คงคิดไม่ถึง

เป็นนักกฏหมาย  แต่้ช่วยคนทำผิดกฏหมาย  กลับผิดให้เป็นถูก  ทำชั่วให้เป็นดี

ยิ่งไปกว่านั้น  เมื่อกลับผิดให้เป็นถูกไม่ได้  ก็แก้กฏหมายมันเสียเลย

สุดยอดวิทยายุทธ์จริงๆ !!!

นับเป็นการประยุกต์ใช้ความรู้  แบบไร้เทียมทาน...

นี่คือความผิดพลาดของการศึกษาไทย...อีกแล้ว  แนวคิดเรื่อง การสอนความรู้คู่คุณธรรม  เพิ่งมาคิดกันได้เมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง

ต่อเมื่อเรามีคนมีความรู้  แต่ไม่มีคุณธรรมเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด
แล้วมันจะทันการณ์ไหมเนี่ย...

นี่แหละ...เพราะไม่เคยอ่านเรื่องพระอภัยมณี  หรืออ่านแล้วแต่ไม่รู้จักเก็บไปคิด






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น