
ทั้งสองคำนี้กลายมาเป็นสำนวนที่หมายถึง การกระทำแบบเอาง่ายเข้าว่า ผลที่ออกมาจะมีคุณภาพต่ำเตี้ยแค่ไหนไม่ต้องคำนึงถึง
ต่างจากการ อบ,รม หรือ เคี่ยว ซึ่งเป็นวิธีการปรุงอาหารที่ประณีต ต้องใช้เวลาทำให้อาหารสุกทั่วอย่างช้า ๆ เพื่อให้อาหารมีรสชาติดี นุ่มนวล มีกลิ่้นหอม
สองสามคำหลังนี้ มักนำมาใช้กับการศึกษา เรียกว่า การศึกษาอบรม
เมื่อสมัยที่การศึกษายังไม่เป็นระบบ คนมักส่งลูกหลานไปเป็นลูกศิษย์วัด หรือไปอยู่ประจำในสำนักอาจารย์ ที่มีความรู้ ความประพฤติดี เพื่อให้ได้แบบอย่างที่ดี ได้เรียนรู้ ได้รับการอบ,รม,เคี่ยว จนซึมซับรับแบบอย่างอาจารย์ เป็นที่มาของการเรียกศิษย์ ว่า ลูกศิษย์ คือเลี้ยงดูอบรมเหมือนลูก ส่วนครูก็กลายเป็น แม่พิมพ์ หรือต้นแบบ

คนที่ผ่านการ อบ,รม และ เคี่ยว มาเป็นอย่างดี กิริยาวาจา ท่าที จะสะท้อนให้เห็นตัวตนว่าได้รับการศึกษาอบรมมาดี
ส่วนแบบลวก ๆ สุก ๆ ดิบ ๆ ที่เห็น ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ ก็สะท้อนเหมือนกัน สะท้อนว่า ถึงแม้จะได้รับการศึกษา แต่ก็น่าจะหย่อนการอบรม
กระแสอาเซียนที่กำลังโหมกระหน่ำ และการปรับเปลี่ยนวิธีการศึกษาอบรมแต่เก่าก่อน มาเป็นการรีบเร่งให้ความรู้แบบอุตสาหกรรมการศึกษา ให้ความรู้แบบลวก ๆ สุกเอาเผากิน ดูลุกลี้ลุกลน

แถมยังลดเวลาที่ครูคน ๆ จะ อบ,รม, เคี่่ยว ลูกศิษย์ให้น้อยลงไปเรื่อย ๆ
ไม่ต้องใช้โพลอะไรสำรวจ ก็เห็นแนวโน้มอนาคตเด็กไทย ศิษย์ครูตู้,ครูคอมฯ
เร่งรีบ เร่งด่วน สุก ๆ ดิบๆ
คุณภาพใกล้เคียงอาหารฟาสต์ฟู้ดเข้าไปทุกที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น